ประสบการณ์ไม่ใช่ปัญหา! 5เหตุผลเจอร์ราร์ดเหมาะคุมลิเวอร์พูล

ประสบการณ์ไม่ใช่ปัญหา! เปิด 5 เหตุผลทำไม สตีเว่น เจอร์ราร์ด ถึงพร้อมมาคุม ลิเวอร์พูล ในซัมเมอร์นี้เลย แม้มีประสบการณ์ในการเป็นกุนซือมาไม่กี่ปีก็ตาม

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยืนยันแล้วว่า จะอยู่คุม “หงส์แดง” จนครบสัญญาที่เหลืออีก 3 ปี หลังเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะก้าวเข้ามารับตำแหน่งกุนซือทีมชาติเยอรมนี ต่อจาก โยอัคคิม เลิฟ หลังจบศึกยูโร 2020 (เลื่อนมาแข่งในปี 2021) ช่วงซัมเมอร์นี้

อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์พลิกผัน คล็อปป์ อำลาถิ่น แอนฟิลด์ ในซัมเมอร์นี้ ขึ้นมาล่ะก็ เชื่อว่า ลิเวอร์พูล คงมีแผนสำรองถึงกุนซือคนใหม่ไว้แล้ว โดยดึง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ผู้จัดการทีม เรนเจอร์ส เข้ามารับงานต่อทันที

เจอร์ราร์ด วัย 40 ปี พา เรนเจอร์ส คว้าแชมป์ พรีเมียร์ชิพ สกอตแลนด์ ฤดูกาลนี้ และสามารถหยุดความยิ่งใหญ่ของ เซลติก ที่มีมา 1 ทศวรรษได้สำเร็จ แม้เพิ่งประเดิมบทบาทกุนซือเต็มตัวเมื่อปี 2018 ก็ตาม

แฟนบอล “หงส์แดง” บางรายอาจหวั่นเรื่องประสบการณ์ของ เจอร์ราร์ด แต่นี่คือ 5 เหตุผลที่ว่า ทำไมตำนานถิ่น แอนฟิลด์ ถึงเหมาะมารับงานต่อจาก คล็อปป์

 1. รู้ลึกถิ่น แอนฟิลด์

คงไม่มีผู้จัดการทีมรุ่นใหม่คนไหนในโลกยุคนี้ ที่จะรู้จัก ลิเวอร์พูล มากไปกว่า เจอร์ราร์ด อีกแล้ว หลังอยู่กับสโมสรมานานถึง 26 ปี ระหว่างปี 1989-2015

เจอร์ราร์ด คงไม่ต้องใช้เวลามากเลยในการปรับตัวกับแนวทางของสโมสร และบรรดา “เดอะ ค็อป” ก็พร้อมหนุนหลังขวัญใจของพวกเขาอย่างเต็มที่แน่นอน

 2. จิตใจแข็งแกร่ง

เรื่องสภาพจิตใจของ เจอร์ราร์ด ไม่ต้องเป็นห่วงเลย เพราะตั้งแต่สมัยเล่นให้ ลิเวอร์พูล ก็มีความเป็นผู้นำอย่างมาก และได้เป็นกัปตันทีมเมื่อปี 2003 ด้วยวัยแค่ 23 ปีเท่านั้น

สตีวี่จี สามารถปลุกเร้าให้เพื่อนๆ ลุกขึ้นสู้ และเมื่อมาเป็นกุนซือเขาก็สามารถกระตุ้นนักเตะให้ใส่เต็มร้อยเหมือนที่ตัวเองเคนทำในสนาม

3. เค้นฟอร์มนักเตะเยี่ยม 

เจอร์ราร์ด แสดงให้เห็นกึ๋นของกุนซือชั้นยอด หลังสามารถเค้นศักยภาพและฟอร์มการเล่นของนักเตะออกมาได้อย่างยอดเยี่่ยม จน เรนเจอร์ส คว้าแชมป์ลีกสกอตแลนด์ สำเร็จ

อดีตกัปตัน “หงส์แดง” ทำให้นักเตะที่เคยมีผลงานไม่คงเส้นคงวาอย่าง คอนเนอร์ โกลด์สัน, ลีออน บาโลกัน และ ไรอัน เคนต์ กลับมาเล่นได้เยียมตลอดซีซั่นนี้

หาก เจอร์ราร์ด ได้มาคุม ลิเวอร์พูล ในซัมเมอร์นี้ก็เชื่อว่าจะทำให้นักเตะ “หงส์แดง” บางรายที่ฟอร์มหลุดไปเยอะในฤดูกาลนี้กลับมาทำผลงานได้ดีเหมือนเดิม

    4. ความคลั่งไคล้ในเกมฟุตบอลเต็มเปี่ยม

หากพูดถึงนักเตะที่มีความคลั่งไคล้ และเอาจริงเอาจังในเกมฟุตบอลมากสุดล่ะก็ ชื่อของ เจอร์ราร์ด จะต้องมีแฟนบอลคิดถึงออกมาแน่นอน

สมัยอยู่กับ “หงส์แดง” แม้ไม่เคยได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก แต่ เจอร์ราร์ด ก็ช่วยทีมได้ทั้งแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ, ยูฟ่า คัพ, ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ และ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ มาแล้ว

เมื่อก้าวมาเป็นกุนซือ เจอร์ราร์ด ก็แสดงให้เห็นถึงความคลั่งไคล้ในเกมเหมือนตอนเป็นนักเตะ อย่างตอน เรนเจอร์ส จ่อคว้าแชมป์ เขาก็ฉลองเต็มเหนี่ยวกับลูกทีม ทั้งร้องเพลงและโชว์สเตปไถลพื้น

    5. รับมือสื่อได้เจ๋ง

เจอร์ราร์ด แสดงให้เห็นถึงการรับมือกับสื่อมวลชนได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่ก้าวเข้ามาทำหน้าที่ผู้จัดการทีม เรนเจอร์ส เมื่อ 3 ปีที่แล้ว

แม้ เรนเจอร์ส โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดในซีซั่นนี้ แต่เวลาให้สัมภาษณ์กับสื่อนั้น เจอร์ราร์ด ไม่เคยคุยโวข่มคู่ต่อสู้ และให้เกียรติทีมคู่แข่งเสมอ รวมทั้งรับมือกับความกดดันได้ดี

แน่นอนว่า การมาคุมทีมใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะต้องเจอกับแรงกดดันจากพวกสื่อมวลชนมากขึ้น แต่เชื่อว่า เจอร์ราร์ด จะสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ หลังได้เห็นสิ่งที่เขาทำไว้ที่สกอตแลนด์

• ติดตามทุกข่าวสารของวงการกีฬาที่นี่  :  snapufabet.com
• ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก : www.siamsport.co.th